วิธีการชําระเงินแบบ E-Commerce ที่นิยมในไทย
- Counter Service
Co.,Ltd. มีบริการตามร้าน 7-11
สามารถรับชำระเงินบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ
ชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ตลอดจนชำระค่าบริการมือถือ แบบจดทะเบียน
- Mobile Payment (M-Pay) ASIA
M-Pay นวัตกรรมใหม่ในการชำระเงินผ่านมือถือ ของธนาคารเอเชีย
นับเป็นธนาคารแรกที่สามารถรับชำระเงินผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้
- Credit Card (บัตรเครดิต) เป็นวิธีที่นิยมใช้กันทั่วไปในทำ
E-Commerce แบบ Business
to Consumer เนื่องจากมูลค่าของการซื้อ-ขายไม่สูงนัก ผู้ขาย
หรือ ร้านค้าจะป้องกันการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลอื่นๆได้
ด้วยการใช้กลไกป้องกันแบบ Secure Socket Layer (SSL) หรือ
Secure Electronic Transactions (SET)
- EDI Payment
เป็นรูปแบบของการชำระเงินทางการค้าระหว่างประเทศบนแบบฟอร์มอิเล็คทรอนิกส์มาตรฐาน
ซึ่งจะระบุรายละเอียดข้อมูลที่เกี่ยวกับการชำระเงินเป็นการเฉพาะ เช่น
การชำระเงินแบบ Letter of Credit (L/C) ระหว่างองค์กรต่อองค์กร
โดยรูปแบบการชำระเงินนี้ต้องอาศัยบริษัทที่สามให้การรับรอง และ
ให้บริการให้ด้านความปลอดภัย
- ระบบโอนเงินรายใหญ่ (BAHTNET) เป็นเครือข่ายอีเล็กทรอนิกส์ระหว่างสถาบันการเงินที่สร้างขึ้นโดย
ธปท. สามารถส่งผ่านข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก
โดยเน้นธุรกรรมขนาดใหญ่ผ่านเครือข่าย VPN ที่เชื่อมอยู่กับ
Terminal ที่เคาน์เตอร์ของธ.พาณิชย์
โดยเป็นวิธีชำระเงินแบบมีผลทันที (Real Time Gross Settlement ; RTGS)
- ระบบโอนเงินรายย่อย (Media Clearing) เป็นเครือข่ายอีเล็กทรอนิกส์แบบ BAHTNET แต่มีธุรกรรมไม่เกิน
500,000 บาทต่อวัน และไม่เป็น RTGS ต้องรอรวบรวมธุรกรรมไว้จนหมดสิ้นวัน
จึงส่งข้อมูลเข้าชำระบัญชีระหว่างธนาคารที่ BOT (Batching Process) วันละ 1 ครั้ง ในรูปของไฟล์อีเล็กทรอนิกส์
ผู้รับโอนเงินจะได้รับเงินในวันรุ่งชึ้น
- ระบบแสดงใบเรียกเก็บเงินและชำระเงิน (eBPP) เป็นระบบการแสดงใบเรียกเก็บเงินหรือใบแจ้งหนี้อีเล็กทรอนิกส์ขององค์กรที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก
ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือตัดผ่านบัญชีธนาคารก็ได้ เช่น
การให้บริการแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า
ปัจจุบันมีผู้ให้บริการอยู่รายเดียว
เนื่องจากยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายเพราะความไม่สะดวกในการทำสัญญาระหว่างลูกค้าผู้ใช้บริการกับเจ้าของบริษัทและการยกเลิก
- ธนาคารอินเตอร์เนต (Internet Banking)เป็นการเพิ่มความสะดวกในการชำระเงินแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนตและไม่ต้องใช่สมุดคู่ฝาก
เช่น การดูยอดเงินในบัญชี การโอนระหว่างบัญชีออมทรัพย์กับกระแสรายวัน
การชำระค่าสาธารณูปโภคผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนตด้วยระบบหักบัญชีด้วยตนเอง
- ระบบหักบัญชีอัตโนมัติ (Direct Debit/Direct Credit)1.ระบบ Direct
Debit คือระบบที่เจ้าของบัญชีจะอนุญาตให้ธนาคารหักเงินออกจากบัญชีเพื่อชำระค่าบริการตามที่ระบุไว้ล่วงหน้าได้
เช่นการชำระค่าสาธารณูปโภค จากหลายๆ บัญชี (Many to One)2.ระบบ Direct
Credit คือระบบที่เจ้าของบัญชีอนุญาตให้ธนาคารหักเงินออกจากบัญชีของตนเข้าสู่หลายๆบัญชีได้
เช่น การโอนเงินเข้าบัญชีเงินเดือนพนักงาน (One to Many)
- ระบบโอนเงิน EDI (Financial EDI ; FEDI) เป็นมาตรฐานรูปแบบข้อมูลทางการค้าที่ได้รับความนิยมมาก เช่น
การส่งใบเสนอราคา คำสั่งซื้อหรือใบส่งของ เอกสารนำเข้าสินค้า ส่งออกสินค้า
ซึ่งมักทำกันในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น กรมศุลกากร
แต่ต้องมีการพัฒนาองค์กรกลางในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่เรียกว่า VAN
(Value Added Network) ซึ่งภายใต้ข้อตกลงของกลุ่มประเทศ APEC
จะต้องพัฒนา EDI ให้เสร็จสิ้นภายใน 2548
– 2553
การชำระเงิน EDI เป็นระบบปิด
เป็นเครือข่ายเฉพาะองค์กร (VPN) โดยผู้ให้บริการ (Service
Provider) บริการเชื่อมต่อระบบชำระเงิน (Payment
Gateway) จึงมีความปลอดภัยสูงกว่าอินเตอร์เนต เพราะใช้ระบบ PKI
(Public Key Infrastructure) ซึ่งเป็นเทคนิคทาง Cryptographic
ทั้งนี้ผู้โอนเงินและผู้รับโอนจะต้องมี CA รับรองทั้งคู่ก่อน ผู้ให้บริการจึงจะสามารถสร้างรหัสกุญแจลับให้ได้
จากนั้นจึงจะดำเนินการส่งข้อความข่าวสารในการโอนเงินผ่านเครือข่ายส่วนบุคคลด้วยระบบ
e-Mail ธรรมดา (Simple Mail Transfer Protocol ;
SMTP)
- ระบบโอนเงินรายย่อย (Online Retail Fund Transfer) ORFT
พัฒนาโดยสมาคมธนาคารไทย สามารถโอนเงินผ่านเครื่อง ATM ได้ ภายใต้ข้อจำกัดการโอน คือ ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท และวันละไม่เกิน 100,000 บาท
ซึ่งมีความปลอดภัยเพราะใช้ผู้ให้บริการเครือข่ายส่วนบุคคล คือ บ. PCC โดยมีธนาคารกรุงเทพฯ เป็นธนาคารกลางในการรับชำระเงินส่วนต่าง
- บัตรเดบิต (Debit Card) เป็นส่วนผสมระหว่างบัตร
ATM กับบัตรเครดิต
ต่างกันที่บัตรเดบิตต้องมีเงินสดในธนาคารก่อนจึงจะใช้ชำระค่าสินค้าได้ ปัจจุบันวงการพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์ยอมรับการใช้บัตรเดบิตมากขึ้น
เพราะปลอดภัย แต่ร้านค้าต้องมีระบบการรับชำระเงินจากทุกๆธนาคารด้วย
จึงทำให้มีต้นทุนการดำเนินงานค่อนข้างสูง
- ระบบโอนเงินผ่านที่ทำการไปรษณีย์
ที่ทำการไปรษณีย์มีอยู่มากกว่า 1200 แห่งทั่วประเทศ บวกกับที่ทำการไปรษณีย์รับอนุญาตอีกกว่า 900 แห่ง จึงสามารถให้บริการรับชำระเงินได้อย่างกว้างขวาง
1.วิธีการธนาณัติ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพราะขึ้นเงินได้ทุกสาขาไปรษณีย์
ซึ่งมีความน่าเชื่อถือเทียบเท่ากับเช็ค ผู้ที่ถูกระบุชื่อในธนาณัติเท่านั้นจึงจะขึ้นเงินได้
และใม่สามารถเปลี่ยนมือได้จึงเสมือนหนึ่งเป็นเช็คขีดคร่อมเข้าบัญชี
2.การส่งโทรเลขด้วยเครือข่ายไปรษณีย์ (Message-switching
Center) เป็นโทรเลขรูปแบบไฟล์อีเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้ขึ้นเงินแทนธนาณัติ
3. (Pay at Post) อีกมิติหนึ่งของการชำระเงินค่าสาธารณูปโภคต่างๆ
ที่สามารถรับชำระเงินผ่านที่ทำการไปรษณีย์ได้ ภายใต้ชื่อบริการ “Pay@Post” โดยรับชำระเงินให้กับลูกค้าของไปรษณีย์ซึ่งจะต้องเปิดบัญชีกับ
ธ.กรุงไทย
- ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ SWIFT
(Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication ; SWIFT) เป็นคำสั่งโอนเงินผ่านเครือข่ายสากลที่เรียกว่า SWIFT ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มสถาบันการเงินเพื่อสร้างเครือข่ายการรับส่งข้อมูลทางการเงิน
โดยปกติธนาคารพาณิชย์ไทย มักเปิดบัญชีกับธนาคารในต่างประเทศอยู่แล้ว
เรียกว่า VOSTRO ส่วนใหญ่ VOSTRO คือ
ธนาคารซิตี้แบงก์ใน NewYork เพราะกว้างขวาง
ครอบคลุมทั่วโลก
- ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ Western Union เป็นระบบโอนเงินระหว่างประเทศอีกระบบแต่ดำเนินงานโดยบริษัท Western
Union Financial Services ในสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันมีสาขาของ
Western Union ไม่ต่ำกว่า 117,00 แห่งทั่วโลก
วิธีการ คือ
ผู้ที่ประสงค์จะชำระเงินค่าสินค้าหรือโอนเงินจากต่างประเทศเข้าประเทศไทยหรือซื้อสินค้าจากต่างประเทศ
เพียงนำเงินสดพร้อมค่าธรรมเนียมโอนเงิน ไปที่สาขาของ Western Union กรอกแบบฟอร์มและระบุผู้รับเงินปลายทาง Western Union ในประเทศปลายทางจะทำการติดต่อผู้รับเงินให้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีธนาคาร
วงการพนันทางอีเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่นิยมใช้ช่องทางนี้ในการชำระเงินหรือเรียกเก็บเงิน
วิธีชำระเงินค่าบริการออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต
(PayPal)
ขั้นตอนชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต
1. ภาพข้างล่างนี้คือ "ใบแจ้งค่าใช้บริการ"
จะแสดงให้ท่านเห็นเมื่อท่านทำการสั่งซื้อสินค้าจนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือ
"เลือกวิธีชำระเงิน" ในส่วนของใบแจ้งค่าใช้บริการจะแสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าและบริการที่ท่านได้ทำการรายการไว้
ให้ท่านทำการตรวจสอบรายการสั่งซื้อสิ้นค้าของท่านให้แน่ใจก่อนทำการชำระค่าบริการหลังจากตรวจสอบว่ารายการสั่งซื้อถูกต้องแล้ว
ทำการเลือกวิธีการชำระเงินด้วยการ "ชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต (PayPal)"
ที่อยู่ด้านบนขวามือ แล้วคลิกปุ่ม "PayPal Check
Out" สีส้ม เพื่อดำเนินการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านระบบ Paypal
ต่อไป
2. หลังจากคลิกปุ่ม
"PayPal Check Out" แล้ว
จะแสดงหน้าระบบการชำระเงินของ PayPal ซึ่งจะมีข้อมูลเลขที่ใบแจ้งชำระเงินและจำนวนเงินที่ต้องชำระค่าบริการ
แสดงอยู่ด้านบนของหน้าเว็บ ดังภาพข้างล่าง สำหรับท่านที่ไม่มีบัญชีของ PayPal
สามารถชำระเงินได้โดยตรงกับบัตรเครดิตของท่าน โดยคลิกที่ลิงค์ที่ชื่อว่า
"ดำเนินการต่อ" (ส่วนท่านที่มีบัญชีของ PayPal
อยู่แล้ว สามารถทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบ PayPal ได้ทันที่ตรงหัวข้อ "เข้าสู่ระบบ PayPal" เพื่อดำเนินชำระเงินตามขั้นตอนต่อไป)
3. พอคลิกลิงค์
"ดำเนินการต่อ" แล้ว
จะมีหน้าแบบฟอร์มให้ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลบัตรเครดิตที่ต้องการใช้ในการชำระเงินค่าบริการ
และข้อมูลชื่อ ที่อยู่ การติดต่อของเจ้าของบัตรรวมถึงอีเมล์ หลังจากกรอกข้อมูลจนครบและตรวจสอบความถูกต้องแน่นอนแล้ว
ให้คลิกปุ่ม
"ตรวจดูการสั่งซื้อสินค้าและดำเนินการต่อ"หลังจากนั้นท่านก็ดำเนินการต่อไป
ตามคำแนะนำของระบบจนการดำเนินการชำระเงินผ่านระบบ PayPal เสร็จเรียบร้อย
วิธีชำระเงินค่าบริการผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
(Counter Service)
ขั้นตอนชำระเงินค่าบริการผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
1. ภาพข้างล่างนี้คือ "ใบแจ้งค่าใช้บริการ"
จะแสดงให้ท่านเห็นเมื่อท่านทำการสั่งซื้อสินค้าจนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือ
"เลือกวิธีชำระเงิน" ในส่วนของใบแจ้งค่าใช้บริการจะแสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าและบริการที่ท่านได้ทำการรายการไว้
ให้ท่านทำการตรวจสอบรายการสั่งซื้อสิ้นค้าของท่านให้แน่ใจก่อนทำการชำระค่าบริการหลังจากตรวจสอบว่ารายการสั่งซื้อถูกต้องแล้ว
ทำการเลือกวิธีการชำระเงินด้วยการ " ชำระเงินผ่าน เคาน์เตอร์ เซอร์วิส (7-eleven)
" ที่อยู่ด้านบนขวามือ แล้วคลิกปุ่ม "เคาน์เตอร์เซอร์วิส POWERED
By PAYSBUY" สีน้ำเงินเทา
เพื่อดำเนินการชำระเงินด้วยเคาน์เตอร์เซอร์วิส ต่อไป
2. หลังจากคลิกปุ่ม
"เคาน์เตอร์เซอร์วิส POWERED By PAYSBUY " แล้ว
ระบบก็จะแสดงช่อง “E-mail” ให้กำหนดชื่ออีเมล์ที่ต้องการรับรายละเอียดในการชำระเงินผ่าน
และช่อง “Mobile” ให้ระบุหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์มือถือของคุณ
เพื่อรับ SMS ข้อความรายละเอียดใช้ในการชำระเงินหลังจากคลิกที่ปุ่ม
“OK” ยืนยันข้อมูลแล้ว ระบบก็จะทำการเริ่มประมวลผลรายการโดยการแสดงสถานะเป็นภาพเคลื่อนไหวหมุนไปเรื่อยๆ
ขั้นตอนการชำระเงินโดยการโอนเงินผ่านทางธนาคาร
1. เลือกวิธีการชำระเงิน
"โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร"
2. แล้วคลิ๊กที่ปุ่ม
"ต่อไป" เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
3. ตรวจสอบข้อมูลสินค้า วิธีการชำระเงิน
และ ข้อมูลในการจัดส่งให้ถูกต้อง แล้ว คลิ๊กที่ปุ่ม "ยืนยันการสั่งซื้อ"
4. หลังจากการสั่งซื้อสินค้า
ทางพนักงานบริษัทฯ จะทำการติดต่อกลับเพื่อยืนยันการสั่งซื้อสินค้าของคุณภายใน 24
ชั่วโมง ในช่วงวันและเวลาทำการของบริษัทฯ พร้อมกับตรวจสอบความถูกต้องของยอดที่ต้องชำระและจำนวนสินค้า
5. หลังจากที่คุณทำการโอนเงินเสร็จสิ้นแล้ว
กรุณาแจ้งการโอนเงินของคุณเข้ามายังบริษัทฯ ในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00 น. - 17.30 น. ในวันจันทร์
ถึงวันศุกร์ของการทำงานปกติของบริษัทฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยอดการโอนเงินของลูกค้า
ทั้งนี้การตรวจสอบยอดเงินของบริษัทฯ จะใช้ระยะเวลาตรวจสอบอย่างน้อย 30 นาที (ถ้าหากคุณไม่ได้ทำการแจ้งการโอนเงินเข้ามา ทางบริษัทฯ
จะไม่สามารถดำเนินการในขั้นต่อไปได้)
คุณสามารถแจ้งการชำระเงินได้ 2 วิธี ดังนี้
วิธีที่หนึ่ง
- คุณสามารถแจ้งการโอนเงินผ่านทางอีเมล์ โดยตั้งหัวข้ออีเมล์ (Subject)
ว่า "ยืนยันการชำระเงิน BaNANA IT" โดยระบุรายละเอียด
ดังนี้
·
ชื่อ
- นามสกุล
·
เบอร์โทรศัพท์
·
ธนาคารที่โอน
·
หมายเลขการสั่งซื้อ
·
จำนวนเงินที่โอน
·
วันที่โอน
·
เวลาที่โอน
·
พร้อมกับแนบหลักฐานการชำระเงิน
ใบ Pay In หรือ สลิปการโอนเงิน ในรูปแบบของนามสกุล PDF หรือ JPEG
เท่านั้น
ส่งรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดมายัง admin@bigitshop.com เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลทั้งหมด
และทำการตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
จะโทรศัพท์ยืนยันการสั่งซื้อสินค้าในขั้นตอนถัดไป
วิธีที่สอง
- คุณสามารถแฟกซ์ข้อมูลตามที่ระบุไว้ในวิธีที่สองพร้อมกับใบ Pay
In หรือ สลิปการโอนเงิน มาที่เบอร์แฟกซ์ 02-656-6904 พร้อมระบุหมายเหตุ "ยืนยันการชำระเงิน BaNANA IT" หรือ สแกนแล้วส่งอีเมล์มาที่ admin@bigitshop.com
6. เมื่อทางเราตรวจสอบการรับชำระเงินอย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้ว
จะดำเนินการจัดส่งสินค้าในขั้นต่อไป
การชำระเงินผ่านไปรษณีย์
เมื่อทำรายการสั่งซื้อสินค้า
ผ่านเว็บไซต์ Post e Mart ของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แล้วท่านสามารถเลือก
ชำระเงินได้ 2 วิธี คือ
1. ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต
ท่านสามารถดำเนินการตามขั้นตอนในเว็บไซต์ที่ปรากฏ หลังจากนั้นมีระยะเวลาในการยืนยันอนุมัตตัดเงิน
จากธนาคาร ประมาณ 3-5วันทำการ
(กรณีนี้ต้องชำระสินค้าอย่างต่ำ 500 บาท ขึ้นไป)
2. ชำระเงินผ่านธนาคารแบบ
Bill Payment
วีธีการชำระเงินนี้ เฉพาะใบสั่งซื้อที่ขึ้นต้นด้วย "PO"เท่านั้น (ประเภทสินค้า:ตราไปรษณียากร สิ่งสะสม
และสินค้าไปรษณีย์) หากใบสั่งซื้อของท่านขึ้นต้นด้วย "SO"
กรุณาศึกษาที่ click (ประเภทสินค้า:อร่อยทั่วไทย
และสินค้าเบ็ดเตล็ด)