วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

WEB SITE PROMOTION


การโปรโมทสินค้าหรือการลงโฆษณาผลิตภัณฑ์ในระบบออนไลน์
แบ่งออกได้ 2ประเภท คือ ประเภทเสียเงิน และแบบไม่เสียเงิน
  1.แบบเสียเงิน ก็ได้แก่ การนำผลิตภัณฑ์ของตนไปลงโฆษณาตามสื่อต่างๆ เช่น เว็บไซด์ต่างๆ มีทั้งแบบเหมาจ่ายและแบบจ่ายตามยอดการคลิกเข้าชม(pay per click) การโฆษณาแบบ pay per click อัตราค่าโฆษณาหรือค่าคลิกต่อครั้งจะเป็นในลักษณะการเสนอราคาเทียบกับความต้องการของผู้โฆษณารายอื่นๆ มีตั้งแต่ครั้งละ3-10บาทต่อคลิก  การโฆษณาแบบเหมาจ่าย เว็บที่ได้รับความนิยมสูงมีผู้เข้าชมมากหรือ มีผู้ใช้บริการมาก อัตราค่าโฆษณาก็ย่อมจะแพงกว่าเว็บไซด์ที่มีผู้เข้าชมน้อยกว่า   ส่วนจะเลือกใช้บริการของกลุ่มใด รูปแบบใด เจ้าของผลิตภัณฑ์ก็ต้องวิเคราะห์ก่อนว่าเว็บไซด์กลุ่มใดเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของตน เช่นเว็บไซด์ในกลุ่ม Social media ที่กำลังหวือหวาคือ เว็บของ facebook ซึ่งการเลือกกลุ่มเป้าหมายสามารถเจาะลงไปได้ถึงวัยของผู้เข้าชม ซึ่งเว็บทั่วๆไป หรือแม้แต่เว็บของ google ก็ยังไม่สามารถทำได้ หรือ จะเลือกแบบเหมาจ่ายรายเดือนรายปีที่มีให้เห็นอยู่หน้าเว็บทั่วๆไป  แต่หากพิจารณาแล้วว่า การเสียเงินโฆษณาไม่คุ้มหรือยังไม่พร้อมที่จะเสียเงินก็ต้องเลือกอีกวิธี
  ตัวอย่าง
   2.การโฆษณาแบบไม่เสียเงิน แน่นอนว่าการหวังผลจะให้เทียบเท่ากับแบบเสียเงินคงเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการโฆษณาแบบฟรีจะไม่ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น โฆษณาฟรีดีๆก็มีไม่น้อยและสามารถเพิ่มยอดขายได้ มาดูกันครับว่าของฟรีแบบไหนดี และเว็บนี้ก็เข้าข่ายเว็บดีที่ฟรี
ตัวอย่าง
 
 
 
                                                                                        

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

E-COMMERCE ADVERTISING


ข้อดีข้อเสียของ E-Commerce Advertising

ข้อดี

1.เพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคการโฆษณาแข่งขันกันของผู้ผลิต ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น เพราะสินค้าทุกประเภทต่างพัฒนาคุณภาพเพื่อแข่งขันกันอย่างเต็มที

2.สื่อโฆษณาสามารถปรับปรุงได้ตลอดเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าสื่อชนิดอื่นๆ

3.การเข้าถึงสื่อได้สะดวกและรวดเร็ว

4.รูปแบบสื่อโฆษณาสามารถใส่ลูกเล่น หรือผสมผสานสื่อชนิดต่างๆ

5.จำนวนของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงมีโอกาสเป็นไปได้ที่จำนวนผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

6.รูปแบบโฆษณาสามารถใส่ลูกเล่น หรือผสมผสานสื่อชนิดต่าง ๆ เช่น ข้อความ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว วิดีโอ และเสียงได้ตามความต้องการ

7.ตัดปัญหาด้านการเดินทาง

ข้อเสีย

1. ค่าใช้จ่ายในการลงทุนค่อนข้างสูงมากในช่วงเริ่มต้น

2.ข้อจำกัดในการนาเสนอสินค้าและข้อมูลที่แสดงอยู่บนป้ายโฆษณา (Banner)

3.ต้องมีการปรับปรุงโฆษณาให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

4.ระยะเวลาในการเข้าถึงผู้รับมีระยะเวลาค่อนข้างสั้น

5.การดำเนินการด้านภาษีต้องชัดเจน

นักศึกษาคิดว่าการจัดทำ E-Commerce Advertising ยังมีวิธีการอื่นนอกจากที่เรียนมาหรือไม่ จงหาข้อมูลเพิ่มเติมและสรุป

มี เพราะ การโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์ต้องใช้ความทันสมัยของยุคปัจจุบัน และควรพัฒนาค้นคว้าให้ทันสมัยมากขึ้น เพื่อให้ทันกับการโฆษณาของปัจจุบันต้องมีการปรับปรุงโฆษณาให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ทำให้สะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น ตามเทคโนโลยีใหม่ในปัจจุบันของ E-commerce Advertising

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

วิธีการชำระเงินของไทย


วิธีการชําระเงินแบบ E-Commerce ที่นิยมในไทย
  • Counter Service Co.,Ltd. มีบริการตามร้าน 7-11 สามารถรับชำระเงินบัตรเครดิตของธนาคารต่างๆ ชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ตลอดจนชำระค่าบริการมือถือ แบบจดทะเบียน
  • Mobile Payment (M-Pay) ASIA M-Pay นวัตกรรมใหม่ในการชำระเงินผ่านมือถือ ของธนาคารเอเชีย นับเป็นธนาคารแรกที่สามารถรับชำระเงินผ่านเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้
  • Credit Card (บัตรเครดิต) เป็นวิธีที่นิยมใช้กันทั่วไปในทำ E-Commerce แบบ Business to Consumer เนื่องจากมูลค่าของการซื้อ-ขายไม่สูงนัก ผู้ขาย หรือ ร้านค้าจะป้องกันการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิตและข้อมูลอื่นๆได้ ด้วยการใช้กลไกป้องกันแบบ Secure Socket Layer (SSL) หรือ Secure Electronic Transactions (SET)
  • EDI Payment เป็นรูปแบบของการชำระเงินทางการค้าระหว่างประเทศบนแบบฟอร์มอิเล็คทรอนิกส์มาตรฐาน ซึ่งจะระบุรายละเอียดข้อมูลที่เกี่ยวกับการชำระเงินเป็นการเฉพาะ เช่น การชำระเงินแบบ Letter of Credit (L/C) ระหว่างองค์กรต่อองค์กร โดยรูปแบบการชำระเงินนี้ต้องอาศัยบริษัทที่สามให้การรับรอง และ ให้บริการให้ด้านความปลอดภัย
  • ระบบโอนเงินรายใหญ่ (BAHTNET) เป็นเครือข่ายอีเล็กทรอนิกส์ระหว่างสถาบันการเงินที่สร้างขึ้นโดย ธปท. สามารถส่งผ่านข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก โดยเน้นธุรกรรมขนาดใหญ่ผ่านเครือข่าย VPN ที่เชื่อมอยู่กับ Terminal ที่เคาน์เตอร์ของธ.พาณิชย์ โดยเป็นวิธีชำระเงินแบบมีผลทันที (Real Time Gross Settlement ; RTGS)
  • ระบบโอนเงินรายย่อย (Media Clearing) เป็นเครือข่ายอีเล็กทรอนิกส์แบบ BAHTNET แต่มีธุรกรรมไม่เกิน 500,000 บาทต่อวัน และไม่เป็น RTGS ต้องรอรวบรวมธุรกรรมไว้จนหมดสิ้นวัน จึงส่งข้อมูลเข้าชำระบัญชีระหว่างธนาคารที่ BOT (Batching Process) วันละ 1 ครั้ง ในรูปของไฟล์อีเล็กทรอนิกส์ ผู้รับโอนเงินจะได้รับเงินในวันรุ่งชึ้น
  • ระบบแสดงใบเรียกเก็บเงินและชำระเงิน (eBPP) เป็นระบบการแสดงใบเรียกเก็บเงินหรือใบแจ้งหนี้อีเล็กทรอนิกส์ขององค์กรที่มีฐานลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกชำระเงินด้วยบัตรเครดิตหรือตัดผ่านบัญชีธนาคารก็ได้ เช่น การให้บริการแจ้งหนี้ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ปัจจุบันมีผู้ให้บริการอยู่รายเดียว เนื่องจากยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายเพราะความไม่สะดวกในการทำสัญญาระหว่างลูกค้าผู้ใช้บริการกับเจ้าของบริษัทและการยกเลิก
  • ธนาคารอินเตอร์เนต (Internet Banking)เป็นการเพิ่มความสะดวกในการชำระเงินแก่ลูกค้าผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนตและไม่ต้องใช่สมุดคู่ฝาก เช่น การดูยอดเงินในบัญชี การโอนระหว่างบัญชีออมทรัพย์กับกระแสรายวัน การชำระค่าสาธารณูปโภคผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนตด้วยระบบหักบัญชีด้วยตนเอง
  • ระบบหักบัญชีอัตโนมัติ (Direct Debit/Direct Credit)1.ระบบ Direct Debit คือระบบที่เจ้าของบัญชีจะอนุญาตให้ธนาคารหักเงินออกจากบัญชีเพื่อชำระค่าบริการตามที่ระบุไว้ล่วงหน้าได้ เช่นการชำระค่าสาธารณูปโภค จากหลายๆ บัญชี (Many to One)2.ระบบ Direct Credit คือระบบที่เจ้าของบัญชีอนุญาตให้ธนาคารหักเงินออกจากบัญชีของตนเข้าสู่หลายๆบัญชีได้ เช่น การโอนเงินเข้าบัญชีเงินเดือนพนักงาน (One to Many)
  • ระบบโอนเงิน EDI (Financial EDI ; FEDI) เป็นมาตรฐานรูปแบบข้อมูลทางการค้าที่ได้รับความนิยมมาก เช่น การส่งใบเสนอราคา คำสั่งซื้อหรือใบส่งของ เอกสารนำเข้าสินค้า ส่งออกสินค้า ซึ่งมักทำกันในองค์กรขนาดใหญ่ เช่น กรมศุลกากร แต่ต้องมีการพัฒนาองค์กรกลางในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่เรียกว่า VAN (Value Added Network) ซึ่งภายใต้ข้อตกลงของกลุ่มประเทศ APEC จะต้องพัฒนา EDI ให้เสร็จสิ้นภายใน 2548 – 2553
    การชำระเงิน EDI เป็นระบบปิด เป็นเครือข่ายเฉพาะองค์กร (VPN) โดยผู้ให้บริการ (Service Provider) บริการเชื่อมต่อระบบชำระเงิน (Payment Gateway) จึงมีความปลอดภัยสูงกว่าอินเตอร์เนต เพราะใช้ระบบ PKI (Public Key Infrastructure) ซึ่งเป็นเทคนิคทาง Cryptographic ทั้งนี้ผู้โอนเงินและผู้รับโอนจะต้องมี CA รับรองทั้งคู่ก่อน ผู้ให้บริการจึงจะสามารถสร้างรหัสกุญแจลับให้ได้ จากนั้นจึงจะดำเนินการส่งข้อความข่าวสารในการโอนเงินผ่านเครือข่ายส่วนบุคคลด้วยระบบ e-Mail ธรรมดา (Simple Mail Transfer Protocol ; SMTP)
  • ระบบโอนเงินรายย่อย (Online Retail Fund Transfer) ORFT พัฒนาโดยสมาคมธนาคารไทย สามารถโอนเงินผ่านเครื่อง ATM ได้ ภายใต้ข้อจำกัดการโอน คือ ครั้งละไม่เกิน 20,000 บาท และวันละไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งมีความปลอดภัยเพราะใช้ผู้ให้บริการเครือข่ายส่วนบุคคล คือ บ. PCC โดยมีธนาคารกรุงเทพฯ เป็นธนาคารกลางในการรับชำระเงินส่วนต่าง
  • บัตรเดบิต (Debit Card) เป็นส่วนผสมระหว่างบัตร ATM กับบัตรเครดิต ต่างกันที่บัตรเดบิตต้องมีเงินสดในธนาคารก่อนจึงจะใช้ชำระค่าสินค้าได้ ปัจจุบันวงการพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์ยอมรับการใช้บัตรเดบิตมากขึ้น เพราะปลอดภัย แต่ร้านค้าต้องมีระบบการรับชำระเงินจากทุกๆธนาคารด้วย จึงทำให้มีต้นทุนการดำเนินงานค่อนข้างสูง
  • ระบบโอนเงินผ่านที่ทำการไปรษณีย์ ที่ทำการไปรษณีย์มีอยู่มากกว่า 1200 แห่งทั่วประเทศ บวกกับที่ทำการไปรษณีย์รับอนุญาตอีกกว่า 900 แห่ง จึงสามารถให้บริการรับชำระเงินได้อย่างกว้างขวาง
    1.วิธีการธนาณัติ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพราะขึ้นเงินได้ทุกสาขาไปรษณีย์ ซึ่งมีความน่าเชื่อถือเทียบเท่ากับเช็ค ผู้ที่ถูกระบุชื่อในธนาณัติเท่านั้นจึงจะขึ้นเงินได้ และใม่สามารถเปลี่ยนมือได้จึงเสมือนหนึ่งเป็นเช็คขีดคร่อมเข้าบัญชี
    2.การส่งโทรเลขด้วยเครือข่ายไปรษณีย์ (Message-switching Center) เป็นโทรเลขรูปแบบไฟล์อีเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้ขึ้นเงินแทนธนาณัติ
    3. (Pay at Post) อีกมิติหนึ่งของการชำระเงินค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ที่สามารถรับชำระเงินผ่านที่ทำการไปรษณีย์ได้ ภายใต้ชื่อบริการ “Pay@Postโดยรับชำระเงินให้กับลูกค้าของไปรษณีย์ซึ่งจะต้องเปิดบัญชีกับ ธ.กรุงไทย
  • ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ SWIFT
    (Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication ; SWIFT) เป็นคำสั่งโอนเงินผ่านเครือข่ายสากลที่เรียกว่า SWIFT ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มสถาบันการเงินเพื่อสร้างเครือข่ายการรับส่งข้อมูลทางการเงิน
    โดยปกติธนาคารพาณิชย์ไทย มักเปิดบัญชีกับธนาคารในต่างประเทศอยู่แล้ว เรียกว่า VOSTRO ส่วนใหญ่ VOSTRO คือ ธนาคารซิตี้แบงก์ใน NewYork เพราะกว้างขวาง ครอบคลุมทั่วโลก
  • ระบบโอนเงินระหว่างประเทศ Western Union เป็นระบบโอนเงินระหว่างประเทศอีกระบบแต่ดำเนินงานโดยบริษัท Western Union Financial Services ในสหรัฐอเมริกา โดยปัจจุบันมีสาขาของ Western Union ไม่ต่ำกว่า 117,00 แห่งทั่วโลก
    วิธีการ คือ ผู้ที่ประสงค์จะชำระเงินค่าสินค้าหรือโอนเงินจากต่างประเทศเข้าประเทศไทยหรือซื้อสินค้าจากต่างประเทศ เพียงนำเงินสดพร้อมค่าธรรมเนียมโอนเงิน ไปที่สาขาของ Western Union กรอกแบบฟอร์มและระบุผู้รับเงินปลายทาง Western Union ในประเทศปลายทางจะทำการติดต่อผู้รับเงินให้ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีธนาคาร วงการพนันทางอีเล็กทรอนิกส์ส่วนใหญ่นิยมใช้ช่องทางนี้ในการชำระเงินหรือเรียกเก็บเงิน
วิธีชำระเงินค่าบริการออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต (PayPal)
ขั้นตอนชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต
1. ภาพข้างล่างนี้คือ "ใบแจ้งค่าใช้บริการ" จะแสดงให้ท่านเห็นเมื่อท่านทำการสั่งซื้อสินค้าจนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือ "เลือกวิธีชำระเงิน" ในส่วนของใบแจ้งค่าใช้บริการจะแสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าและบริการที่ท่านได้ทำการรายการไว้ ให้ท่านทำการตรวจสอบรายการสั่งซื้อสิ้นค้าของท่านให้แน่ใจก่อนทำการชำระค่าบริการหลังจากตรวจสอบว่ารายการสั่งซื้อถูกต้องแล้ว ทำการเลือกวิธีการชำระเงินด้วยการ "ชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต (PayPal)" ที่อยู่ด้านบนขวามือ แล้วคลิกปุ่ม "PayPal Check Out" สีส้ม เพื่อดำเนินการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านระบบ Paypal ต่อไป
2. หลังจากคลิกปุ่ม "PayPal Check Out" แล้ว จะแสดงหน้าระบบการชำระเงินของ PayPal ซึ่งจะมีข้อมูลเลขที่ใบแจ้งชำระเงินและจำนวนเงินที่ต้องชำระค่าบริการ แสดงอยู่ด้านบนของหน้าเว็บ ดังภาพข้างล่าง สำหรับท่านที่ไม่มีบัญชีของ PayPal สามารถชำระเงินได้โดยตรงกับบัตรเครดิตของท่าน โดยคลิกที่ลิงค์ที่ชื่อว่า "ดำเนินการต่อ" (ส่วนท่านที่มีบัญชีของ PayPal อยู่แล้ว สามารถทำการล็อกอินเข้าสู่ระบบ PayPal ได้ทันที่ตรงหัวข้อ "เข้าสู่ระบบ PayPal" เพื่อดำเนินชำระเงินตามขั้นตอนต่อไป)
3. พอคลิกลิงค์ "ดำเนินการต่อ" แล้ว จะมีหน้าแบบฟอร์มให้ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลบัตรเครดิตที่ต้องการใช้ในการชำระเงินค่าบริการ และข้อมูลชื่อ ที่อยู่ การติดต่อของเจ้าของบัตรรวมถึงอีเมล์ หลังจากกรอกข้อมูลจนครบและตรวจสอบความถูกต้องแน่นอนแล้ว ให้คลิกปุ่ม "ตรวจดูการสั่งซื้อสินค้าและดำเนินการต่อ"หลังจากนั้นท่านก็ดำเนินการต่อไป ตามคำแนะนำของระบบจนการดำเนินการชำระเงินผ่านระบบ PayPal เสร็จเรียบร้อย
วิธีชำระเงินค่าบริการผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส (Counter Service)
ขั้นตอนชำระเงินค่าบริการผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส
1. ภาพข้างล่างนี้คือ "ใบแจ้งค่าใช้บริการ" จะแสดงให้ท่านเห็นเมื่อท่านทำการสั่งซื้อสินค้าจนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือ "เลือกวิธีชำระเงิน" ในส่วนของใบแจ้งค่าใช้บริการจะแสดงข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าและบริการที่ท่านได้ทำการรายการไว้ ให้ท่านทำการตรวจสอบรายการสั่งซื้อสิ้นค้าของท่านให้แน่ใจก่อนทำการชำระค่าบริการหลังจากตรวจสอบว่ารายการสั่งซื้อถูกต้องแล้ว ทำการเลือกวิธีการชำระเงินด้วยการ " ชำระเงินผ่าน เคาน์เตอร์ เซอร์วิส (7-eleven) " ที่อยู่ด้านบนขวามือ แล้วคลิกปุ่ม "เคาน์เตอร์เซอร์วิส POWERED By PAYSBUY" สีน้ำเงินเทา เพื่อดำเนินการชำระเงินด้วยเคาน์เตอร์เซอร์วิส ต่อไป
2. หลังจากคลิกปุ่ม "เคาน์เตอร์เซอร์วิส POWERED By PAYSBUY " แล้ว ระบบก็จะแสดงช่อง “E-mail” ให้กำหนดชื่ออีเมล์ที่ต้องการรับรายละเอียดในการชำระเงินผ่าน และช่อง “Mobile” ให้ระบุหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์มือถือของคุณ เพื่อรับ SMS ข้อความรายละเอียดใช้ในการชำระเงินหลังจากคลิกที่ปุ่ม “OK” ยืนยันข้อมูลแล้ว ระบบก็จะทำการเริ่มประมวลผลรายการโดยการแสดงสถานะเป็นภาพเคลื่อนไหวหมุนไปเรื่อยๆ
ขั้นตอนการชำระเงินโดยการโอนเงินผ่านทางธนาคาร
1. เลือกวิธีการชำระเงิน "โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร"
2. แล้วคลิ๊กที่ปุ่ม "ต่อไป" เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป
3. ตรวจสอบข้อมูลสินค้า วิธีการชำระเงิน และ ข้อมูลในการจัดส่งให้ถูกต้อง แล้ว คลิ๊กที่ปุ่ม "ยืนยันการสั่งซื้อ"
4. หลังจากการสั่งซื้อสินค้า ทางพนักงานบริษัทฯ จะทำการติดต่อกลับเพื่อยืนยันการสั่งซื้อสินค้าของคุณภายใน 24 ชั่วโมง ในช่วงวันและเวลาทำการของบริษัทฯ พร้อมกับตรวจสอบความถูกต้องของยอดที่ต้องชำระและจำนวนสินค้า
5. หลังจากที่คุณทำการโอนเงินเสร็จสิ้นแล้ว กรุณาแจ้งการโอนเงินของคุณเข้ามายังบริษัทฯ ในช่วงเวลาตั้งแต่ 10.00 น. - 17.30 น. ในวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ของการทำงานปกติของบริษัทฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยอดการโอนเงินของลูกค้า ทั้งนี้การตรวจสอบยอดเงินของบริษัทฯ จะใช้ระยะเวลาตรวจสอบอย่างน้อย 30 นาที (ถ้าหากคุณไม่ได้ทำการแจ้งการโอนเงินเข้ามา ทางบริษัทฯ จะไม่สามารถดำเนินการในขั้นต่อไปได้)
คุณสามารถแจ้งการชำระเงินได้ 2 วิธี ดังนี้
วิธีที่หนึ่ง - คุณสามารถแจ้งการโอนเงินผ่านทางอีเมล์ โดยตั้งหัวข้ออีเมล์ (Subject) ว่า "ยืนยันการชำระเงิน BaNANA IT" โดยระบุรายละเอียด ดังนี้
·         ชื่อ - นามสกุล
·         เบอร์โทรศัพท์
·         ธนาคารที่โอน
·         หมายเลขการสั่งซื้อ
·         จำนวนเงินที่โอน
·         วันที่โอน
·         เวลาที่โอน
·         พร้อมกับแนบหลักฐานการชำระเงิน ใบ Pay In หรือ สลิปการโอนเงิน ในรูปแบบของนามสกุล PDF หรือ JPEG เท่านั้น
ส่งรายละเอียดข้อมูลทั้งหมดมายัง admin@bigitshop.com เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลทั้งหมด และทำการตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จะโทรศัพท์ยืนยันการสั่งซื้อสินค้าในขั้นตอนถัดไป
วิธีที่สอง - คุณสามารถแฟกซ์ข้อมูลตามที่ระบุไว้ในวิธีที่สองพร้อมกับใบ Pay In หรือ สลิปการโอนเงิน มาที่เบอร์แฟกซ์ 02-656-6904 พร้อมระบุหมายเหตุ "ยืนยันการชำระเงิน BaNANA IT" หรือ สแกนแล้วส่งอีเมล์มาที่ admin@bigitshop.com
6. เมื่อทางเราตรวจสอบการรับชำระเงินอย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้ว จะดำเนินการจัดส่งสินค้าในขั้นต่อไป
การชำระเงินผ่านไปรษณีย์
เมื่อทำรายการสั่งซื้อสินค้า ผ่านเว็บไซต์ Post e Mart ของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด แล้วท่านสามารถเลือก
ชำระเงินได้ 2 วิธี คือ
1. ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต
ท่านสามารถดำเนินการตามขั้นตอนในเว็บไซต์ที่ปรากฏ หลังจากนั้นมีระยะเวลาในการยืนยันอนุมัตตัดเงิน
จากธนาคาร ประมาณ 3-5วันทำการ (กรณีนี้ต้องชำระสินค้าอย่างต่ำ 500 บาท ขึ้นไป)
2. ชำระเงินผ่านธนาคารแบบ Bill Payment
วีธีการชำระเงินนี้ เฉพาะใบสั่งซื้อที่ขึ้นต้นด้วย "PO"เท่านั้น (ประเภทสินค้า:ตราไปรษณียากร สิ่งสะสม
และสินค้าไปรษณีย์) หากใบสั่งซื้อของท่านขึ้นต้นด้วย "SO" กรุณาศึกษาที่ click (ประเภทสินค้า:อร่อยทั่วไทย
และสินค้าเบ็ดเตล็ด)